ในกีฬากอล์ฟ ระยะการตีนั้นมีความเป็นอย่างมาก เนื่องจากลักษณะของการ แข่งขันคือการเลี้ยงลูกกอล์ฟไปยังกรีนที่อยู่ห่างออกไปและตีลูกให้ลงหลุม การทำระยะการตีให้คงที่จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
แต่กอล์ฟจะทำการเล่นท่ามกลางธรรมชาติที่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆและมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆไปพร้อมๆกันด้วย จึงทำให้มีบางสถานการณ์ที่ยากต่อการทำให้ระยะการตีคงที่ ดังนั้นในครั้งนี้จึงจะมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวให้ได้อย่างชำนาญ

【สารบัญ】
1.สาเหตุที่ระยะการตีลดลงทั้งๆที่ตีตามลม (follow) (วิธีตีให้เข้ากันกับลม)
2.อิทธิพลของฝนที่มีต่อระยะการตี (สาเหตุในเชิงฟิสิกส์และทางด้านจิตใจ)
3.ความแตกต่างของ「ลูกลอย」และ 「ลูกไม่ลอย」(อะไรที่เหมาะกับตัวคุณ)
4.ความลับที่หัวเหล็ก (iron) ของโปรกอล์ฟทำให้ลูกลอยได้ดีกว่า(หัวใจสำคัญของกอล์ฟ)
5.สรุปในครั้งนี้

สาเหตุที่ระยะการตีลดลงทั้งๆที่ตีตามลม (follow) (วิธีตีให้เข้ากันกับลม)

เป็นเรื่องปกติที่ระยะการตีจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีลมพัดตาม แต่หากลมที่พัดตามมามีความแรงมากเกินไปก็จะทำให้ลูกกอล์ฟตกลงมาก่อนที่จะไปถึงจุดสูงสุด หรือตกวูบลงมาเมื่อจุดสูงสุดและเข้าสู่วิถีที่ลดต่ำลง ในกรณีแรกเรียกกันว่า 「ถูกลมตี」เป็นปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อลูกกอล์ฟถูกลมดันจากด้านหลังและอัตราการแบ็คสปิน (backspin rate) ลดลง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อมุมที่ลูกเหินขึ้น (launch angle) ต่ำ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง
กรณีหลังเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า 「ดรอป」ลูกที่เข้าสู่วิถีที่ลดต่ำลงจะมีความเร็วลดลงอย่างช้าๆ แต่ถ้าลมพัดตามแรงลูกกอล์ฟกับลมอาจมีความเร็วเท่ากัน จึงส่งผลให้การไหลของอากาศรอบๆลูกกอล์ฟน้อยลงและทำให้การลอยตัวในอากาศลดลง เมื่อการลอยตัวในอากาศลดลงลูกกอล์ฟก็จะตกลงด้วยและจะเกิดการร่วงตกลงมาอย่างรวดเร็ว (ดรอป)
เพื่อหลีกเลี่ยงความโชคร้ายเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องเหวี่ยงไม้ไปให้สุด ทำให้ลูกเกิดการสปิน วิธีนี้จะทำให้ลูกกอล์ฟไม่ถูกลมตีและเข้ากันกับลมได้
นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกใช้ spoon เมื่อตีตามลมได้อีกด้วย การใช้ spoon จะช่วยเพิ่มมุมที่ลูกเหินขึ้นและยกลูกให้สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สามารถตีลูกให้เข้ากับลมได้

อิทธิพลของฝนที่มีต่อระยะการตี (สาเหตุในเชิงฟิสิกส์และทางด้านจิตใจ)

มีนักกอล์ฟหลายคนบอกว่า หากเปรียบเทียบกันแล้ว การเล่นกอล์ฟท่ามกลางสายฝนง่ายนั้นกว่าการเล่นภายใต้ลมแรง บางคนบอกว่าเสียงฝนจะตัดเสียงรบกวนรอบๆ ตัวออกไป ซึ่งช่วยให้พวกเขามีสมาธิ และก็มีคนที่บอกว่ากรีน (green) ที่เปียกจะทำให้ลูกหยุดได้ง่ายและทำคะแนนที่ดีได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เป็นข้อเท็จจริงที่ว่าฝนจะส่งผลเสียต่อการเล่นในแง่ของระยะการตี อาจไม่มีข้อมูลที่แน่นอนว่า 「ปริมาณน้ำฝนเท่าใด จะลดระยะการตีได้เท่าใด」แต่ในน้ำฝนนั้นมีมวลสาร หากมีของที่มีน้ำหนักมากระทบกับลูกกอล์ฟ ระยะการตีก็ย่อมลดลงเป็นธรรมดา
แต่ทว่า ระยะการตีที่ลดลงในรอบที่ฝนตกนั้นมีสาเหตุหลักนอกเหนือจากเม็ดฝนที่กระทบลูกกอล์ฟ สาเหตุหลักคือการที่ลูกไม่รัน (run) เนื่องจากพื้นเปียก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง draw ball hitter ที่โดยปกติแล้วจะทำระยะทางได้ด้วยการรัน จะได้รับผลการทบมากเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ น้ำที่ไหลเข้ามาระหว่างลูกกอล์ฟกับหน้าไม้ก็ส่งผลต่อระยะการตีเช่นกัน
ไดรเวอร์ (driver) และหัวไม้ (wood) อัตราแบ็คสปินจะลดลง ทำให้ลูกกอล์ฟลอยขึ้นได้ยาก จึงทำให้ระยะการตีลดลง
ในทางกลับกัน ในกรณีของหัวเหล็ก (iron) จะเหมือนกันกับ flier (การเล่นช็อตออกจาก รัฟ หรือ พื้นที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อลดแบ็คสปินของลูก ซึ่งลักษณะที่ลูกออกไปจะลอยต่ำและไกลขึ้นกว่าปกติ) คืออัตราการแบ็คสปินจะลดลงเนื่องจากน้ำเข้าไประหว่างลูกกอล์ฟกับหน้าไม้และลูกอาจลอยได้ไกลกว่าที่คาดไว้ ไม่ว่าจะในกรณีใดก็สงผลส่งเสียต่อการเล่น ดังนั้นไม่ว่าจะหัวไม้หรือหัวเหล็ก หากเล่นเมื่อฝนตกก็ควรทำการเช็ดทำความสะอาดหน้าไม้ก่อนทำการตีเสมอ
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่เสื้อกันฝนเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ลอยอีกด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างวงสวิงกับร่างกายมนุษย์นั้นค่อนข้างมีความซับซ้อน และการหมุนของไหล่จะเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณสวมเสื้อคลุมอยู่หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นเสื้อกันฝนที่มีความแข็ง จะส่งผลกระทบต่อวงสวิงมากกว่าเสื้อคลุม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่โปรกอล์ฟจะไม่สวมเสื้อกันฝนแม้ว่าฝนจะตกหนักก็ตาม
นอกจากนี้ ในด้านจิตวิทยาของกอล์ฟ ลมก็จะเป็นไปในลักษณะเดียวกัน หากคุณรู้สึกไม่ชอบเวลาที่ฝนตก จังหวะการสวิงของคุณมักจะเร็วขึ้น จึงส่งผลให้นอกจากระยะในการตีจะลดลงแล้วยังทำให้เกิดช็อตผิดพลาดต่างๆด้วย
การรับมือที่มีประสิทธิภาพคือ ให้คิดว่าการเล่นกอล์ฟเมื่อฝนตกก็เป็นส่วนหนึ่งของการเล่นกอล์ฟเช่นกัน และหากคุณสามารถค้นพบด้านบวก เช่น การที่ลูกกอล์ฟหยุดได้ง่ายขึ้น สามารถมีสมาธิและคิดว่า 「การเล่นกอล์ฟเมื่อฝนตกก็สนุกดีเหมือนกัน」ก็มีโอกาสในการลดจำนวนสโตรคได้

ความแตกต่างของ「ลูกลอย」และ 「ลูกไม่ลอย」(อะไรที่เหมาะกับตัวคุณ)

ถ้าให้พูดง่ายๆลูกกอล์ฟในอุดมคติก็คือลูกที่「ลอยและหยุด」ใช่หรือไม่ แต่ถ้าพูดกันตามความจริงแล้วลูกในฝันเช่นนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะว่า「การลอย」และ「การหยุด」นั้นมีความขัดแย้งกันในแง่ของสมรรถภาพของลูกกอล์ฟ
น่าเสียดายที่ลูกกอล์ฟในฝันที่แบ็คสปินได้เหมาะสมเมื่อใช้ไดรเวอร์ และแบ็คสปินได้สูงสุดเมื่อใช้เวดจ์ (wedge) ยังไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้น
แน่นอนว่าทางฝั่งผู้ผลิตก็กำลังทำการคิดค้นเพื่อพัฒนาลูกกอล์ฟในฝันเหล่านั้นอยู่ทุกวัน และลูกกอล์ฟสำหรับโปรกอล์ฟและผู้เล่นระดับสูงที่ใกล้เคียงกับอุดมคติก็มีเพิ่มมากขึ้น
แต่หากพูดกันตามความจริงแล้ว「ลูกลอย」จะสูญเสียประสิทธิภาพในการหยุดและ 「ลูกหยุด」จะสูญเสียประสิทธิภาพในการลอย ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนจากการที่ผู้ผลิตจะจำหน่ายลูกกอล์ฟโดยแยกประเภท「ลูกลอย」และ「ลูกหยุด」 ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดของทั้งสองสิ่งนี้อยู่ที่คุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำเปลือกนอกของลูกกอล์ฟ
โดยส่วนใหญ่แล้วลูกลอยจะทำมาจาก ionomar (surlyn) และลูกหยุดจะใช้ urethane
ionomar จะมีค่าการกระดอนกลับสูงกว่า urethane จึงทำให้ลอยได้ดีกว่า ในทางกลับกัน urethane จะมีความอ่อนนุ่มมากกว่าจึงทำให้สปินได้ดี และให้สัมผัสการตีที่นุ่มนวลกว่า นอกจากนี้แม้ว่าลูกกอล์ฟสำหรับโปรและผู้เล่นระดับสูงจะใช้ urethane เหมือนกัน แต่ด้วยการเปลี่ยแกนที่อยู่ด้านในก็จะสามารถแยกประเภทลูกที่เน้นระยะการตีกับลูกที่เน้นการสปินได้
ถึงอย่างไรโปรและผู้เล่นระดับสูงหลายคนเลือกที่จะใช้ลูกกอล์ฟที่เปลือกทำจาก urethane เพราะถึงแม้จะสูญเสียระยะทางไปบ้างแต่ก็สามารถหยุดลูกกอล์ฟได้ในช็อตที่เล็งไปยังกรีนหรือแอพโพรช (approach) เนื่องจากให้สัมผัสการตีที่นุ่มนวล จึงมีข้อดีตรงที่มีสัมผัสที่ละเอียดอ่อนซึ่งจำเป็นต่อการแอพโพรช
ระยะการตีเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้คะแนนลดลงได้ แต่หากลูกหยุดข้างหลุมได้อย่างเหมาะเจาะก็จะทำให้เกิดความแตกต่างที่ 1 สโตรค จึงเป็นเรื่องทำธรรมดาที่โปรกอล์ฟจะเลือกใช้ในการแข่งขัน
ลูกกอล์ฟที่หยุดได้ดีมีข้อเสียคือ มีราคาแพง เปลือกนอกเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย และมีอัตราการสปินสูง จึงทำให้ลูกโค้งได้ง่าย ในทางกลับกัน ลูกกอล์ฟที่เน้นระยะการตีจะมีจุดเด่นตรงที่มีราคาถูก เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก แถมลูกยังโค้งได้ยากกว่าอีกด้วย ซึ่งประเด็นข้างต้นหากผู้เล่น「ต้องการแค่ตีลูกออกไปโดยไม่สนว่าลูกกอล์ฟจะหายไปสัก1หรือ2ลูก」แนะนำให้ใช้ลูกกอล์ฟเน้นระยะการตีที่มีราคาถูก

ความลับที่หัวเหล็ก (iron) ของโปรกอล์ฟทำให้ลูกลอยได้ดีกว่า(หัวใจสำคัญของกอล์ฟ)

หัวเหล็กที่โปรกอล์ฟใช้โดยปกติแล้วจะมีองศาหน้าไม้ (loft) มากกว่าหัวเหล็กสำหรับมือสมัครเล่น 1~2 องศา แต่ถึงอย่างไรก็ตีได้ดีกว่ามือสมัครเล่น 2~3 เบอร์ แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?
แน่นนอนว่ามีความแตกต่างที่ความเร็วของหัวไม้ (club head speed) แต่เหตุผลหลักๆคือ เมื่อเทียบกันแล้วมือสมัครเล่นจะพยายามตีงัดลูก แต่โปรกอล์ฟจะตีด้วยการดาวน์โบลว (down blow) นั่นเอง
หลายคนอาจคิดว่าดาวน์โบลวคือ การตีจากด้านบนด้วยมุมที่แหลมกว่าสวิงปกติ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น อันที่จริงแม้จะพูดว่าเป็นการดาวน์โบลว ก็ไม่ได้เป็นวงสวิงที่มีความพิเศษอะไร แต่ก็จะแตกต่างจากไดรเวอร์ ที่ใช้ทีอัพ (tee up) ลูกกอล์ฟ ในกรณีของหัวเหล็ก จุดต่ำสุดของวงสวิงจะอยู่ด้านหลังลูกกอล์ฟ กล่าวคือ ในขณะที่หัวไม้ตกลงมาหัวไม้จะกระทบกับลูกระหว่างการดาวน์สวิง (down swing) จึงเป็นที่มาว่าเหตุใดถึงถูกเรียกว่าดาวน์โบลว จะเห็นได้ว่าในช็อตหัวเหล็กของโปรกอล์ฟ หัวไม้จะตีตัดหญ้าหลังจากเลยตำแหน่งที่ลูกอยู่ไปแล้ว หากมีหญ้าติดมากับลูกกอล์ฟ นั่นเป็นหลักฐานว่าคุณตีหลังลูก เหตุผลที่ดาวน์โบลวทำให้ลูกลอยได้ดีเป็นเพราะ องศาหน้าไม้จะตั้งอยู่ในขณะที่อิมแพค (impact) เมื่อดาวน์โบลวหัวไม้จะกระทบกับลูกในขณะที่ตกลงมาจึงทำให้หน้าไม้หันลงด้านล่างเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น หากองศาหน้าไม้ของ 9I อยู่ที่ประมาณ 7I ถ้าลูกไม่ลอยจะถือว่าแปลก
ยิ่งไปกว่านั้น หากตีด้วยดาวน์โบลวการแบ็คสปินจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นลูกจะลอยสูงขึ้นและจะไม่ค่อยวิ่งแม้จะตกลงบนกรีน จึงสามารถเล็งไปที่หมุดได้โดยตรง
หากลองคิดดูแล้ว กอล์ฟคือเกมส์ที่ตีลูกบนพื้น ดังนั้นจึงไม่สามารถตีลูกขึ้นมาจากด้านล่างได้ มักกล่าวกันว่า FW (หัวไม้แฟร์เวย์หรือ fairway wood) ควรตีจากด้านข้าง แต่มุมตกกระทบของหัวไม้จะน้อยกว่าหัวเหล็ก สุดท้ายแล้วหากไม่ตีด้วยดาวน์โบลวลูกก็จะไม่ลอยขึ้น มือสมัครเล่นหลายคนพยายามตีงัดลูกเพราะเชื่อว่าหากไม่ทำเช่นนั้นลูกก็จะไม่ลอยขึ้น แต่ตราบใดที่ลูกไม่ได้ลอยอยู่บนรัฟ (rough) ก็จะไม่มีช่องว่างใต้ลูก ซึ่งคุณจะเห็นได้ว่าถ้าพยายามตีลูกขึ้นโดยการตีงัดลูก ก็จะทำได้แค่ตีหลังลูกหรือไม่ก็ตีท็อปหัวลูก (top) เท่านั้น

สรุปในครั้งนี้

ในครั้งนี้ได้นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวกับระยะการตีซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำคัญที่จะส่งผลต่อคุณภาพในการเล่นกอล์ฟ หากคุณสามารถทำระยะการตีได้คงที่โดยคำนึงถึงเงื่อนไขต่างๆเช่น สภาพอากาศและความแตกต่างของลูกกอล์ฟ การโจมตีในสนามก็จะง่ายมากขึ้น เพื่อให้เล่นกอล์ฟได้เก่งขึ้น แน่นอนว่าการพัฒนาเทคนิคเป็นสิ่งสำคัญ แต่การพัฒนาความรู้และสภาพจิตใจก็มีความหมายมากเช่นกัน จดจำข้อมือที่จะเป็นไว้และหวังว่าคุณจะได้นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเล่นจริง

บทความที่เกี่ยวข้อง：【กอล์ฟจะเก่งขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์】สาเหตุที่โปรกอล์ฟหญิงที่มีความเร็วหัวไม้ต่ำ (club head speed) ตีลูกได้ไกลกว่าผู้ชายทั่วไป
 
บทความที่เกี่ยวข้อง：【กอล์ฟจะเก่งขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์】สาเหตุที่ความเร็วเริ่มต้นของลูกกอล์ฟเร็วแต่ลูกไม่ลอย