ความรู้เบ็ดเตล็ด/คอลัมน์|GOLF MEETS ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาสนามกอล์ฟและข้อมูลกีฬากอล์ฟในประเทศไทย

GOLF MEETS THAILAND

GOLF MEETS THAILAND

Columnความรู้เบ็ดเตล็ด/คอลัมน์

【กอล์ฟจะเก่งขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์】วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการพัตต์ (putt)~ตีขึ้นไลน์ (line) ให้ได้ตามจินตนาการ3~

【กอล์ฟจะเก่งขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์】วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการพัตต์ (putt)~ตีขึ้นไลน์ (line) ให้ได้ตามจินตนาการ3~

คอลัมน์

2023.04.15

ว่ากันว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัตติ้ง (putting) กอล์ฟก็คือ
ทักษะในการอ่านไลน์ไปจนถึงหลุมให้ถูกต้อง ผลการอ่านไลน์จะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากขึ้นอยู่กับความลาดเอียงรอบๆหลุมและตำแหน่งของไลน์ ดังนั้นทักษะในการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์และความรู้จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ดังนั้นในคอลัมน์นี้จะมาแนะนำพอยท์สำคัญๆต่างๆที่เกี่ยวกับการอ่านไลน์เมื่อทำการพัตติ้ง หากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับการพัตติ้งโปรดลองนำไปศึกษาดู

【สารบัญ】
1.จริงหรือไม่ที่「ความลาดเอียงใกล้ๆหลุมต้องอ่านอย่างใส่ใจ」(กับดักของการอ่านไลน์)
2.snake line ควรเล็งตรงไหน อย่างไร (กฎของไลน์ที่ซับซ้อน)
3.จะรู้ได้อย่างไรว่า「ตัดขวาได้หรือตัดซ้ายได้」(กฎที่เข้าใจได้ง่าย)
4.เหตุผลที่มักกล่าวกันว่า「ถ้าหลุดนอกไลน์คือ pro side」(ความลับในการไม่ทำ 3 พัตต์)
5.สรุปในครั้งนี้

จริงหรือไม่ที่「ความลาดเอียงใกล้ๆหลุมต้องอ่านอย่างใส่ใจ」(กับดักของการอ่านไลน์)

มักกล่าวกันว่าเมื่ออ่านไลน์พัตต์「ความลาดเอียงใกล้ๆหลุมต้องอ่านอย่างใส่ใจ」นั่นก็คือ เนื่องจากเมื่อลูกกอล์ฟจะมีพละกำลังอยู่ชั่วขณะหนึ่งหลังจากถูกตีออกไปจึงทำให้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากความลาดเอียง แต่เมื่อลูกเริ่มเข้าใกล้หลุมว่ากันว่าพละกำลังนั้นก็จะหมดไปทำให้ได้รับผลกระทบจากความลาดชั้นได้ง่าย แต่นั่นเป็นความจริงหรือไม่?
สมมติว่ามีไลน์อยู่ 2 ไลน์ และทั้งสองไลน์มีระยะห่างไปถึงหลุมเหมือนกันอยู่ที่ 6 เมตร ไลน์ A เป็นเส้นตรงไปจนถึงจุดกึ่งกลาง หลังจากเลยจุดนั้นไปแล้วมีความลาดเอียงไปทางขวาและตัดไปซ้าย ไลน์ B มีความลาดจากทางขวาไปจนถึงจุดกึ่งกลาง (มีความลาดเอียงเหมือนกันกับช่วงครึ่งหลังของไลน์ A) และหลังจากนั้นจะกลายเป็นเส้นตรง
สมมติว่าทั้งสองไลน์สโตรคด้วยการสัมผัสเบาๆ ถ้าเป็นคุณจะอ่านไลน์ทั้งสองนี้อย่างไร? เมื่อพิจารณาจากกฎแล้ว ไลน์ A ตัดเฉียงไปทางซ้ายในช่วงครึ่งหลัง จึงจะตีให้ค่อนข้างออกไปทางขวา ไลน์ B มีความลาดเอียงในช่วงแรกลูกกอล์ฟจึงมีพละกำลังจึงไม่วิ่งตัดขนาดนั้น และเนื่องจากช่วงครึ่งหลังทางเป็นเส้นตรงจึงดูไม่ฮุค (hook) มากเท่าไลน์ A อย่างไรก็ตามคำตอบในกรณีนี้คือ ไม่ว่าจะเป็นไลน์ A หรือ B หลุมสมมติที่ต้องเล็งจะเหมือนกัน
สมมติว่าคุณอ่านไลน์ของหลุมสมมติของไลน์ A ไปทางขวา 4 ช่วงหลุม ไลน์ B ก็จะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน แม้ว่าวิถีการเคลื่อนที่ของลูกจะต่างกัน (A จะโค้งซ้ายอย่างรวดเร็วในช่วงสุดท้าย จึงดูเหมือนว่ากำลังขยายออก) แต่ทิศทางในการตีและการสัมผัสของทั้ง 2 ไลน์จะไม่แตกต่างกัน เนื่องจากทั้ง A และ B มีระดับความลาดเอียงเท่ากัน และความยาวของส่วนที่ลาดเอียงก็เท่ากัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องคิดว่าความลาดเอียงอยู่ตรงส่วนไหนของไลน์

snake line ควรเล็งตรงไหน อย่างไร (กฎของไลน์ที่ซับซ้อน)

กฎที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ สามารถนำไปใช้กับ「snake line」ที่ผสมผสานระหว่างฮุค (hook) และสไลซ์ (slice) ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น สมมติว่าไลน์ในช่วงแรกฮุค และช่วงหลังสไลซ์ หากคิดว่า「ยิ่งเข้าใกล้หลุมเท่าไหร่ความลาดเอียงก็จะมีผลกระทบต่อไลน์มากขึ้นเท่านั้น」หลายคนจึงมักจะอ่านไลน์สไลซ์ในช่วงหลังให้มากขึ้น จริงๆแล้วคุณไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น สำหรับไลน์เหล่านี้ ก่อนอื่นให้คุณแยกไลน์ไปจนถึงหลุมก่อนว่าช่วงใดฮุคและช่วงใดสไลซ์ ถัดไปคือ ในช่วงทฮุค ให้อ่านระยะการโค้งโดยสมมติราวกับว่าหลุมอยู่ปลายสุดทางซ้ายของช่วงนั้น และอ่านระยะการโค้งของสไลซ์ในลักษณะเดียวกัน หลังจากนั้นก็แค่รวมระยะการโค้งของทั้งสองเข้าด้วยกัน
ในกรณีนี้ช่วงครึ่งแรกจะฮุค 2 หลุม ช่วงครึ่งหลังสไลซ์ 1 หลุม จึงรวมกันได้ฮุค 1 หลุม เมื่อกำหนดระยะการโค้งในช่วงสุดท้ายด้วยวิธีนี้ ก็จะสามารถกำหนดหลุมสมมติได้โดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นสิ่งที่คุณต้องทำก็แค่เชื่อมหลุมสมมติกับลูกกอล์ฟแล้วตีลูกออกไปให้เป็นเส้นตรง จริงๆแล้วเคล็ดลับคือให้ลืมไปก่อนว่านั่นเป็น snake line และทำการสโตรคโดยคิให้ดว่านั่นคือเส้นตรง

จะรู้ได้อย่างไรว่า「ตัดขวาได้หรือตัดซ้ายได้」(กฎที่เข้าใจได้ง่าย)

มีวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการฝึกพัตติ้ง คือการวางลูกกอล์ฟเรียงกันให้เป็นรูปวงกลมรอบหลุมบนกรีน (green) ที่จะทำการฝึก แล้วตีให้ลงหลุมตามลำดับ ในกรณีนี้กรีนควรมีระดับความลาดเอียงที่พอดี ในกรีนที่ราบเรียบเท่ากันหมด ไม่ว่าลูกกอล์ฟจะอยู่ตรงไหนไลน์ที่เชื่อมลูกกอล์ฟกับหลุมก็จะเป็นเส้นตรง แต่หากกรีนมีความลาดเอียง คุณจะสามารถฝึกไลน์ต่างๆได้ด้วยระยะห่างที่เท่าๆกัน ทั้งฮุคและวไลซ์ รวมถึงไลน์ขึ้นและลงเนินด้วย
แต่ปัญหาก็คือ มีน้อยคนที่สามารถใช้ไลน์ตีลงหลุมที่ขึ้นอยู่กับความลาดเอียงเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ในการพัตติ้งจริงๆได้
ในกรณีที่ไลน์ไปจนถึงหลุมมีลักษณะเป็นเส้นตรงเพียง 1 เส้น ไลน์นี้คือที่มีความชันสูงสุดในการเล่นสกีและเส้นตรงนี้หมายความว่าคุณสามารถลื่นไถลลงมาที่นี่ได้โดยตรง
ด้วยเหตุนั้นสิ่งต่อไปที่ต้องการให้คุณสังเกตคือ ถ้าคุณมองไลน์ตรงนี้จากด้านล่างหลุม ลูกกอล์ฟที่อยู่ด้านขวาทั้งหมดจะวิ่งตัดไปทางซ้าย และลูกกอล์ฟที่อยู่ด้านซ้ายทั้งหมดจะวิ่งตัดไปทางขวา และไม่เกี่ยวกับว่าจะตีขึ้นหรือลงเนิน สิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดเพียงอย่างเดียวก็คือ ลูกกอล์ฟอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวาของไลน์ตรงเท่านั้น
หมายความว่าในการพัตติ้งจริง เพียงแค่รู้ไลน์ตรง คุณก็จะรู้ว่าลูกกอล์ฟของคุณจะโค้งไปทางไหน และยิ่งลูกกอล์ฟเข้าใกล้ไลน์ตรงมากเท่าไหร่ การโค้งก็จะน้อยลงเท่านั้น
ในการพัตติ้งจริงมีไลน์ที่คลุมเครือและเข้าใจได้ยากว่าลูกจะวิ่งตัดไปทางไหน ในตอนนั้นเพียงแค่หา「ไลน์ที่วิ่งตรง」และเช็คดูว่าลูกกอล์ฟของคุณอยู่ทางซ้ายหรือขวาของไลน์นั้น ให้มองจากด้านล่างของเนิน หากลูกอยู่ด้านขวาของไลน์คือฮุค และด้านซ้ายคือสไลซ์

เหตุผลที่มักกล่าวกันว่า「ถ้าหลุดนอกไลน์คือ pro side」(ความลับในการไม่ทำ 3 พัตต์)

ว่ากันว่าในการพัตติ้งมีวิธีทำให้หลุดนอกไลน์ คือไปทาง「pro side」และไปทาง「amateur side」「หลุดไปทาง pro side」คือ ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่สไลซ์ไลน์ ลูกจะสามารถวิ่งผ่านหลุมได้ แต่「หลุดไปทาง amateur side」ลูกจะวิ่งตัดไปทางขวาด้านหน้าหลุม
หากจะถามว่าทำไมถึงกรณีแรกถึงเรียกว่า「pro side」คงต้องบอกว่ามีอยู่ 2 สาเหตุที่อาจเป็นไปได้ อย่างแรกคือ การกระแทกด้วยความแรงที่มากพอจะทำให้ลูกเลยหลุมได้ ดังคำพูดที่กล่าวว่า「never up never in」「พัตต์ไม่ถึงก็ไม่ลงหลุม」ในโลกของโปรกอล์ฟว่ากันว่า「putt is money」เพราะโปรเอาแต่ตีช็อตเลยกินข้าวไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเรียกว่า proside
อีกอย่างหนึ่งก็คือ พัตต์ที่หลุดจาก pro side การพัตต์กลับจะทำได้ง่าย หากไลน์สไลซ์หลุดจาก pro side ลูกกอล์ฟจะวิ่งบนไลน์ตรงและเลยไปหยุดที่อีกฝั่งของหลุม ซึ่งหมายความว่าลูกกอล์ฟจะอยู่ฝั่งขวาของไลน์ที่วิ่งตรงไป ดังนั้นการพัตต์กลับจะต้องเป็นฮุคไลน์อย่างแน่นอน ในทางกลับกัน หากหลุดไปทาง amateur side มีสองกรณีคือลูกกอล์ฟจะหยุดด้านหน้าไลน์ที่วิ่งเป็นเส้นตรง หรือหยุดหลังจากเลยผ่านไลน์นั้นไปแล้ว
หากเป็นกรณีแรก ลูกกอล์ฟจะอยู่ด้านซ้ายของไลน์ที่วิ่งตรง ดังนั้นลูกที่สองก็จะเป็นสไลซ์ไลน์ แต่ในกรณีหลัง ลูกกอล์ฟจะอยู่ด้านขวาของไลน์วิ่งตรง ดังนั้น การตีกลับจึงเป็นฮุคไลน์ กล่าวคือในกรณีของ amateur side การโค้งจะตรงกันข้าม ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่พัตต์แรกหยุด ซึ่งหมายความว่าการพัตต์กลับจะทำได้ยากขึ้น การที่โปรกอล์ฟมืออาชีพพัตต์กลับลงหลุมได้อย่างง่ายดาย เพราะพวกเขาหลุดไปทาง pro side จึงทำให้การอ่านไลน์ง่ายขึ้นเพียงแค่หันกลับไปยังทางที่คุณมาเท่านั้นเอง

สรุปในครั้งนี้

ในครั้งนี้ได้เสนอโดยเน้นเกี่ยวกับการอ่านไลน์ในการพัตติ้งเป็นหลัก
หากคุณสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องในแต่ละสถานการณ์ต่างที่กล่าวไปในข้างต้น คะแนนของคุณก็จะเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก การฝึกฝนซ้ำๆและความเคยชินเป็นสิ่งจำเป็นมากในการอ่านไลน์ และเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นคุณจะจะค่อยๆเข้าใจได้มากขึ้น ดังนั้นโปรดลองนำไปฝึกฝนดู

บทความที่เกี่ยวข้อง:【กอล์ฟจะเก่งขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์】วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการพัตต์ (putt)~ตีขึ้นไลน์ (line) ให้ได้ตามจินตนาการ1~
 
บทความที่เกี่ยวข้อง:【กอล์ฟจะเก่งขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์】วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการพัตต์ (putt)~ตีขึ้นไลน์ (line) ให้ได้ตามจินตนาการ2~

Contact

กรุณาส่งความคิดเห็นและความต้องการของท่านเกี่ยวกับ GOLF MEETS ในลิงค์ด้านล่าง

Mail form